มิ.ย.
รายงานแบบสำรวจข้อมูลตลาด
Posted by:
Posted by:
Posted by:
Posted by:
Posted by:
Posted by:
ลด ละ เลิก การใช้โฟม และถุงพลาสติก
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เตือนใช้โฟมบรรจุอาหารร้อนจัด โดยเฉพาะอาหารทอดด้วยน้้ามัน เช่น ไข่ดาว ผัด ซีอิ้ว ระวังภาชนะหลอมละลายจนอาจเกิดสารก่อมะเร็ง “สไตรีน” ปนเปื้อนอาหาร แนะน้าให้ใช้ถุงร้อนหรือรอให้ อาหารเย็นก่อนบรรจุในกล่องโฟม เพื่อความปลอดภัยในสุขภาพ
ปัจจุบันพ่อค้าแม่ค้าอาหารตามสั่ง อาหารสำเร็จรูป นิยมใช้กล่องโฟม เป็นภาชนะบรรจุอาหาร ทั้งนี้เนื่องจากมี ความสะดวก รวดเร็ว อย่างไรก็ตามการน้าภาชนะ “โฟม” มาบรรจุอาหารร้อนจ้าเป็นต้องระมัดระวัง เนื่องจากการ สัมผัสกับอาหารร้อนจัดเป็นระยะเวลานาน อาจท้าให้ภาชนะเสียรูปและอาจหลอมละลายจนมีสาร “สไตรีน” ซึ่งเป็น สารก่อมะเร็งออกมาปนเปื้อนกับอาหารที่บรรจุอยู่ได้โดยปริมาณการละลายออกมาของ สไตรีน จะมากหรือน้อยนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัย 3 อย่าง คือ ไขมันในอาหาร ระยะเวลา และอุณหภูมิระหว่างการสัมผัสของอาหารกับภาชนะ ซึ่งอาหาร ที่มีไขมันสูงจะท้าให้มีการละลายออกมาของสไตรีนมากกว่าอาหารที่ไม่มีไขมันเป็นส่วนประกอบ
ทําไมต้องลดการใช้พลาสติกและโฟม ?
– ปัจจุบันมีขยะพลาสติกและโฟมเกิดขึ้นประมาณ 2.7 ล้านตัน หรือเฉลี่ยประมาณ 7,000 ตันต่อวัน
– เป็นถุงพลาสติกประมาณ 80 % หรือ ประมาณ 5,300 ตันต่อวัน โดยน้ำหนัก ก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ ดังนี้
ปัญหาจากการใช้พลาสติกและโฟม ?
– ปัญหาการอุดตันตามท่อระบายน้ำท้าให้น้ำท่วม
– ปัญหาการทิ้งขว้างขยะพลาสติกและโฟมกระจัดกระจายทั่วไป หรือลอยในแม่น้ำ ล้าคลอง และทะเลท้าลาย ทัศนียภาพ
– เกิดอันตรายต่อระบบย่อยอาหารของสัตว์
– ผลจากกระบวนการผลิตจนถึงการก้าจัดพลาสติกและโฟมหลังการใช้งานก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน
วิธีการลดการใช้พลาสติกและโฟม
5.น้าพลาสติกและโฟมที่ผ่านการใช้งานแล้วกลับมาใช้ซ้ำ
6.หลังจากการใช้งานพลาสติกและโฟมแล้วให้ท้าความสะอาดและไม่ทิ้งปะปนกับ
ขยะมูลฝอยอื่น (น้ามาใช้ซ้ำ และลดการปนเปื้อน)
7.ใช้ผลิตภัณฑ์ชนิดเติมท้าให้เราใช้พลาสติกน้อยลง เช่น น้ำยาล้างจาน ถ่านชนิดชาร์ตได้
ประโยชน์จากการลดการใช้พลาสติกและโฟมการลดการใช้ถุงพลาสติก
ถุงพลาสติกเป็นผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมมากเพราะย่อยสลายได้ยากใช้เวลาเป็นร้อยๆปี วิธีการกำจัดถุงพลาสติก นั้น มีอยู่ 2 วิธี คือ
เราต้องช่วยกน ลด งด ใช้ถุงพลาสติก โดยการ
Posted by:
Posted by:
Posted by:
Posted by: